0indy

มิตรภาพ และอิสระภาพแห่งดนตรี รอคุณอยู่ที่นี่...
ระหว่างการพัฒนา พบปัญหาการใช้งาน โปรดแจ้งที่ webmaster.0indy.com
เพื่อน
0
โปรไฟล์
0
เพลง
0
บล็อก
0
รูปภาพ
0
วิดีโอ
0
บทความ
0

KD-MUSIC การวางไมค์อัดกีตาร์

เขียนเมื่อ 31 ก.ค.2551 13:14 น.

Recording     การวางไมโครโฟรสำหรับอัดเสียงกีตาร์ ตอนที่ 1   /

การวางไมโครโฟรสำหรับอัดเสียงกีตาร์ ตอนที่ 1
หลังจากที่เราสามารถเลือกใช้ไมโครโฟนเป็นแล้ว ในตอนนี้เราจะมาว่ากันถึงเรื่องของการวางกันครับ จะขอแบ่งวิธีการวางออกเป็นสองชนิดกีตาร์ก่อนแล้วกันครับ

1. การวางไมโครโฟนกับกีตาร์อคูสติค ( รูปที่ 1 )
2. การวางไมโครโฟนหน้าตู้แอมป์ ( รูปที่ 2 )

ก่อนที่จะไปถึงการวางว่าควรวางอย่างไรจะขออธิบายหลักการคร่าวๆก่อนครับ คือ Diaphargm ของไมโครโฟนมันจะทำหน้าที่รับเสียงเหมือน กับหูของเราเพราะฉะนั้นการวางไมโครโฟนก็ควรจะเอา Diaphargm ของไมโครโฟนเข้าหาแหล่งกำเนิดเสียง ( Source ) อันนี้เป็นหลักการ วางไมโครโฟนของทุกเครื่องดนตรีครับเหมือนกับการที่ต้องการได้ยินเสียงอะไรชัดเราก็ควรจะเอาหูเข้าใกล้แหล่งกำเนิดเสียงนั้นๆหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ คราวนี้พอรู้หลักการคร่าวๆแล้วก็ลองมาวางไมโครโฟนกันเลยครับ เรามาเริ่มกันที่ กีตาร์ อคูสติคกันก่อน ก่อนที่จะวางโครโฟนเราก็ต้องเลือกไมโครโฟนมาใช้ก่อน ไมโครโฟนที่จะใช้ควรเป็น Condersor เนื่องจากมันจะไวและตอบสนองความถี่ได้กว้างกว่า ส่วนขนาดของ diaphragm อาจจะใช้ใหญ่ หรือเล็กก็ได้ขึ้นอยู่กับซาวด์ที่ต้องการ ( ท่านที่สงสัยวิธีการเลือกไมโครโฟน ไปดูในบทความที่ผ่านมาได้ครับ )


(รูปที่ 3)

(รูปที่ 4)

พอเลือกไมโครโฟนได้แล้วก็มาดูวิธีวางครับ แหล่งกำเนิดเสียงของกีตาร์อคูสติค ก็คือ Hole ที่อยู่ตรงกลางนั่นเองครับ ( รูปที่ 3 ) เพราะฉะนั้นในทางทฤษฏีเราก็ควรเอาไมโครโฟนไปวางที่ Hole ครับ แต่พอดีมันเป็นไปไม่ได้เนื่องจากมันเป็นจุดที่นักดนตรีเล่น บางท่านบอกว่าแก้ปัญหาด้วยการบอกให้นักดนตรีเล่นออกไปด้านอื่นได้หรือไม่จะได้วางไมโครโฟนได้สะดวก คำตอบคือไม่แนะนำอย่างแรงครับ เพราะการอัดเสียงแล้วหลักการที่สำคัญที่สุดคือเก็บตัวตนของ เครื่องดนตรีและนักดนตรีนั้นเข้า มาให้สมบูรณ์ที่สุดเพราะฉะนั้นถ้าหากนักดนตรีจะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะให้ซาวด์เอ็นจิเนียร์ทำงานง่ายแล้วละก็มันจะกลายเป็นว่าเราได้ไปเก็บเอา ตัวตนของซาวด์เอ็นจิเนียร์แทนที่จะเก็บ
ตัวตนของนักดนตรีแล้วละครับ เพราะฉะนั้นการอัดเสียงที่ดี ควรจะปล่อยให้นักดนตรีเล่นได้สะดวกที่สุดแล้ว ซาวด์เอ็นจิเนียร์ค่อยหาวิธีเก็บเอาเสียงอันนั้นเข้าไปครับซึ่งทุก อย่างนันจะมีวิธีเสมออย่างกรณี กีตาร์อคูสติกที่เราคุยกัน อยู่นี้เนื่องจากเราไม่สามารถไปวางที่ Hole เนื่องจากเป็นจุดที่นักดนตรีเล่นถ้าวางไมโครโฟนตรงนี้จะรบกวนการเล่นมาก ครับและที่สำคัญมันแทนที่จะเก็บ


( รูปที่ 5 )

เสียงกีตาร์ได้ดีกลายเป็นได้ยินเสียงมือของผู้เล่นเข้ามามากด้วยเพราะฉะนั้นถึง Hole จะเป็นแหล่งกำเนิดเสียงแต่ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นจุดวางไมโครโฟนครับ ก็เลยควรวางเป็นไมโครโฟนสองตัวแทน ตัวนึงวางที่ Bridge ( รูปที่ 4 )อีกตัวหนึ่งวางที่ Fret 12 ( รูปที่ 5 ) เสียงที่ได้จาก Bridge มันจะค่อนข้างแข็งคมชัดพูดง่ายๆก็คือมันจะได้ยินเสียง Tone ชัด  ส่วนไมโครโฟนที่วางที่ Fret 12 มันจะได้เสียงที่นุ่มกว่าได้ยินเสียงของ Body กีตาร์ชัด ( เอาเสียงจากไมโครโฟนสองตัวมาผสมกันก็จะได้เสียงเหมือนออกมาจาก Hole นั่นเองครับ ) หลังจากที่เราวางไมโครโฟนสอง ตัวก็จะสามารถเลือกได้ในตอนมิกซ์เสียงว่าถ้าเราต้องการเสียงของสายชัดก็ให้เอาเสียงของไมโครโฟนที่วางที่ Bridge เป็นตัวหลัก ถ้าต้องการเน้นที่เสียงของ Body กีตาร์ก็ให้เอาไมโครโฟนที่วางที่ Fret 12 เป็นตัวหลักครับ ส่วนการวางก็ให้วางไมโครโฟน Condensor ที่เลือกไว้ห่างจากจุดที่ต้องการประมาณ 1 ฝ่ามือ ทั้งจุดที่ Fret และ Bridge โดยหัน Diaphargm เข้าหาตัวกีตาร์ แล้วลองฟังดูทีละตัวขอย้ำว่าฟังทีละตัวก่อนนะครับ คือ เทคนิคที่มีการวางไมโครโฟนมากกว่า 1 ตัวขึ้นไปควร อย่างมากที่จะต้องฟังไมโครโฟนที่วางทีละตัวเนื่องจากบางครั้งฟังรวมๆตอนอัดอาจจะรู้สึกว่าดีแต่จริงๆแล้วแต่ละตัวอาจจะ ไม่ได้เสียงที่ดีนักก็ได้เวลาที่จะมิกซ์ดาวน์อาจจะมีปัญหาครับเพราะฉะนั้นถ้าวางไมโครโฟนกับเครื่องดนตรีเดียวกันมากกว่า 1 ตัว ต้องเช็คฟังทีละตัวครับ นอกจากจะต้องเช็คฟังทีละตัวแล้วต้องเช็คว่ามีอาการเฟสเอาท์ ของไมโครโฟนหรือไม่ ( รายละเอียดจะมาลงเรื่องของเฟสทีหลังครับเดี๋ยวจะงง ) โดยการลองฟังพร้อมกันแล้วเช็ค Mono ดูถ้าเสียง Mono ชัดกว่าเข็งแรงกว่าเสียงจาก Stereo แสดงว่ามีการเอาท์เฟสเกิดขึ้นแล้วครับต้องหาจุดวางใหม่

เอาเป็นว่าถ้าวางไมโครโฟนมากกว่า 1 ตัวต้องอย่าลืมเช็คทีละตัวและเช็คเฟสด้วยครับ หลังจากที่วางและเช็คฟังแล้วลอง ค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆเพื่อเช็คหาจุดโฟกัสที่เหมาะสมที่สุดหลังจากที่ได้จัดโฟกัสที่ดีที่สุดก็เริ่มอัดได้เลยครับ แต่ข้อควรระวังเวลาจะพักมือกีตาร์มักจะวางกีตาร์แล้วออกไปพักผ่อนบางทีกลับมาการวางกีตาร์อาจจะคลาดเคลื่อนจากจุดโฟกัสเดิมไป ต้องเช็คใหม่ทุกครั้งครับถ้าให้ดีก็ควรมี Stand ที่เอาไว้ตั้งอัดกีตาร์มันจะตั้งกีตาร์ไว้เลยไม่ขยับ โฟกัสของเสียงก็แม่นยำครับ ( ท่านใดที่ทราบว่าขายที่ไหนก็โพสบอกชาวกีตาร์ไทยกันนะครับเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ) สำหรับท่านที่อัดเสียงแล้วเวลาเล่นอคูสติกกีตาร์แล้วลำโพงกระพือแปลกๆ โดยเฉพาะถ้า Woofer กระพือเหมือนจะหลุดออกมา อันนี้ต้องระวังครับมักจะเกิดจากลมของการเล่นหรือเสียงของแอร์ ซึ่งจะเป็นเสียงความถี่ต่ำมากๆ บางทีเราอาจจะไม่ได้ยินแต่ลำโพงตอบสนองมันได้เลยกระพือ อันนี้ต้องระวังครับ อาจทำให้ลำโพงเสียหายได้ เราเรียกมันว่า Subsonic วิธีแก้ Subsonic


( รูปที่ 7 )
 

เราจะทำได้สองวิธีครับแบบแรกคือลองถอยไมโครโฟนให้ห่างออกจากกีตาร์อีกซักเล็กน้อยก่อน หรือใช้ Low cut ก็ได้ครับถ้าลองเอาไมโครโฟนออกแล้วไม่หาย แต่ถ้าไม่มี Subsonic อย่าใช้ Low cut หรือพวก EQ แก้ปัญหาเสียงที่ได้ไม่ถูกใจเด็ดขาดครับ ( รูปที่ 7 ) ถ้ายังไม่ได้โฟกัสเสียงที่ดีอย่าแก้ไขช่วงของการอัดด้วย Fx ชนิดต่างๆครับ ต้องวางจนหาจุดที่ดีให้เจอย้ำนะครับอย่าแก้ปัญหาของการวางไมโครโฟนด้วยวิธีอื่น ปัญหาของไมโครโฟนต้องแก้ด้วยการวาง ไมโครโฟนให้ดีเท่านั้นครับ การใช้ Fx เราจะเอามาช่วยตอนมิกซ์ ถ้าเราอัดเสียงมาดีแล้วใส่ Fx ช่วยตอนมิกซ์ ก็จะยิ่งเสียงดีครับ ถ้าแอบใส่ Fx ไปก่อนในช่วงอัดเสียงเวลามิกซ์จะแก้ไขอะไรไม่ได้ครับ สำหรับคนที่ใช้ Compressor ( รูปที่ 8 ) เป็นแนะนำว่าจะใช้ก็จะได้เสียงที่ดีขึ้นครับแต่ให้ใส่แต่น้อยๆ แล้วไปใส่เพิ่มตอนมิกซ์อีกที โดยใส่ไม่ไห้ Gain Reduction -2 -  -3 ในช่วงที่ Peak ที่สุด ( คนที่ไม่เคยใช้ Compressor ไม่ต้องตกใจครับถ้าวาง ไมโครโฟนให้ดีก็ได้เสียงที่ดีแล้วครับ ยังไงจะมาว่ากันเรื่อง Compressor อีกทีครับ )

สรุปเทคนิคการอัดเสียงกีตาร์อคูสติก
1. ใช้ Condersor Microphone 2 ตัว
2. วางที่ Fret 12 กับ Bridge โดยวาง Diaphargm ห่างจากกีตาร์ ประมาณ 1 ฝ่ามือ
3. ไม่ควรใช้ Fx บางชนิด เช่น Reverb , EQ
4. สามารถใช้ Compressor แต่อย่าใส่ Gain Reduction มาก
ตอนต่อไปจะมาว่ากันเรื่องการวางไมโครโฟน หน้าตู้แอมป์ ครับ

1
Copyright (c) 2008-2009, 0indy.com. All right reserved.
Powered by MusicATM.com.